FASHION TITLE
ภาษาไทย
ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ อ่านจับใจความสำคัญ เขียนแผนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่ได้จากการอ่าน อภิปรายแสดงความคิดเห็นหรือโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์ จำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุน ข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน และมีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนเรียงความ เขียนจดหมายกิจธุระ และมีมารยาทในการเขียน ฝึกการพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดู พูดวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ พูดในโอกาสต่าง ๆ และมีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ศึกษาการสร้างคำสมาส โครงสร้างประโยคชนิดต่าง ๆ ในภาษาไทย สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมที่อ่านในระดับที่ยากขึ้น วิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดี วรรณกรรมที่อ่าน สรุปความรู้ ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน แล้วนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และท่องจำบทอาขยานที่มีคุณค่าตามที่กำหนด
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภาษาไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงมีกระแสพระราชดำรัสที่สะท้อนถึงความห่วงใยของพระองค์เรื่องภาษาไทย โดยทรงชี้แนะพสกนิกรของพระองค์ให้ ตระหนักถึงความสำคัญของภาษา และการช่วยกันธำรงรักษาวัฒนธรรมทางภาษาที่ดีงามของ ชาติไว้มิให้เสื่อมสูญ ดังความตอนหนึ่งว่า “ภาษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ้านเมือง ขอให้ร่วมมือกันรักษามาตรฐานของภาษาไทยไว้อย่าให้ทรุดโทรม” (อ้างถึงใน พยุงศักดิ์ จันทรสุรินทร์, ๒๕๓๘ : คำนำ)
ภาษาไทยในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสาร ในชีวิตประจำวันของคนไทย ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นลืมตาจนกระทั่งนอนหลับ เราต้องใช้ภาษาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องถือว่า คนไทยเป็นผู้ที่โชคดีที่บรรพบุรุษของเรามีความชาญฉลาด สามารถประดิษฐ์คิดค้นภาษาของตนเองขึ้นใช้ทั้งภาษาพูด และภาษาที่เป็นตัวอักษรใช้แทนเสียง ภาษาไทยจึงเป็นมรดกอันล้ำค่าที่ บรรพบุรุษได้สร้างไว้และถ่ายทอดสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น เราในฐานะลูกหลานไทยจึงควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติมากว่า ๗๐๐ ปี และภาษาไทยจะยังคงยั่งยืนตลอดไป ถ้าทุกคนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทย ช่วยกันธำรงรักษาและพัฒนาภาษาไทยไว้มิให้ผันแปรไปในทาง เสื่อมโทรมลงไป ดังกระแสพระราชดำรัสที่อัญเชิญมาข้างต้นแล้ว
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภาษาไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงมีกระแสพระราชดำรัสที่สะท้อนถึงความห่วงใยของพระองค์เรื่องภาษาไทย โดยทรงชี้แนะพสกนิกรของพระองค์ให้ ตระหนักถึงความสำคัญของภาษา และการช่วยกันธำรงรักษาวัฒนธรรมทางภาษาที่ดีงามของ ชาติไว้มิให้เสื่อมสูญ ดังความตอนหนึ่งว่า “ภาษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ้านเมือง ขอให้ร่วมมือกันรักษามาตรฐานของภาษาไทยไว้อย่าให้ทรุดโทรม” (อ้างถึงใน พยุงศักดิ์ จันทรสุรินทร์, ๒๕๓๘ : คำนำ)
ภาษาไทยในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสาร ในชีวิตประจำวันของคนไทย ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นลืมตาจนกระทั่งนอนหลับ เราต้องใช้ภาษาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องถือว่า คนไทยเป็นผู้ที่โชคดีที่บรรพบุรุษของเรามีความชาญฉลาด สามารถประดิษฐ์คิดค้นภาษาของตนเองขึ้นใช้ทั้งภาษาพูด และภาษาที่เป็นตัวอักษรใช้แทนเสียง ภาษาไทยจึงเป็นมรดกอันล้ำค่าที่ บรรพบุรุษได้สร้างไว้และถ่ายทอดสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น เราในฐานะลูกหลานไทยจึงควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติมากว่า ๗๐๐ ปี และภาษาไทยจะยังคงยั่งยืนตลอดไป ถ้าทุกคนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทย ช่วยกันธำรงรักษาและพัฒนาภาษาไทยไว้มิให้ผันแปรไปในทาง เสื่อมโทรมลงไป ดังกระแสพระราชดำรัสที่อัญเชิญมาข้างต้นแล้ว
ลักษณะเด่นของภาษาไทย
ภาษาไทยมีลักษณะเฉพาะที่เป็นของตนเอง แตกต่างจากภาษาอื่น ๆ หลายประการดังนี้
๑. ภาษาไทยมีตัวอักษรเป็นของตนเอง ตั้งแต่พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรง-ประดิษฐ์ลายสือไทขึ้นในปี พ.ศ. ๑๘๒๖ อันเป็นต้นกำเนิดอักษรไทย จากนั้นอักษรไทย จึงได้วิวัฒนาการเป็นลำดับมาจนถึงปัจจุบัน ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตนเองหลายประการดังนี้
๑.๑ ตัวอักษรใช้แทนเสียงแท้ เรียกว่า สระ สระในภาษาไทยมี ๒๑ รูป ๓๒ เสียง รูปสระ ๒๑ รูป มีชื่อเรียกดังต่อไปนี้
ะ เรียก วิสรรชนีย์ า เรียก ลากข้าง
ิ ” พินทุ์อิ ' ” ฝนทอง
ํ ” หยาดน้ำค้าง " ” ฟันหนู
ุ ” ตีนเหยียด ู ” ตีนคู้
เ ” ไม้หน้า โ ” ไม้โอ
็ ” ไม้ไต่คู้ ั ” ไม้หันอากาศ
(หรือไม้ผัด)
อ ” ตัว ออ ว ” ตัว วอ
ย ” ตัว ยอ ไ ” ไม้มลาย
ใ ” ไม้ม้วน
ฤ ” ตัวรึ ฤๅ ” ตัวรือ
ฦ ” ตัวลึ ฦๅ ” ตัวลือ